" ถนนไปถึงไหนป่าหายที่นั่น"
การขยายถนน ดงพระยาเย็น-เขาใหญ่ถนนจาก2เลนเป็น8เลนจะมีผลกระทบกับป่าไม้กับการบุกรุกขนาดไหนสัตว์ป่าจะอยู่กันอย่างไรเมื่อผืนป่าใหญ่ถูกแบ่งเป็น2ส่วนผลกระทบที่เป็นรูปธรรมคือองค์การยูเนสโกคงต้องยึดคืนป่ามรดกโลกจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่เพิ่งให้เรามาได้ไม่นานส่วนอื่นๆที่มองไม่เห็นอีกมากเรามีเส้นทางการเดินทาง ที่พอเพียงหรือยัง ?
เราเลี่ยงได้ไม๊ถ้ามันจะกระทบกับสิ่งอื่นๆที่เรียกคืนไม่ได้จากสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นวันนี้เราสร้างป่า ที่มีระบบนิเวศกันไม่ได้ เรามาช่วยกันอนุรักษ์ป่า ที่ยังมีอยู่ดีกว่าไม๊ครับ ??
เข้าร่วมFaceBookผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านใน ต.หนองน้ำแดง และ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ได้ทำการขยายถนนธนะรัชน์ ซึ่งใช้เป็นเส้นทางหรือประตูสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งแต่ ต.หนองน้ำแดง เรื่อยไปจนถึง ต.หมูสี อ.ปากช่อง จากเดิมถนน 4 เลนเป็นถนน 8 เลน รวมระยะทาง 10 กิโลเมตร เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และแก้ปัญหารถติดในช่วงวันหยุดและเทศกาลสำคัญ ๆ โดยใช้งบประมาณจำนวนกว่า 69 ล้านบาท จากโครงการไทยเข้มแข็ง ทั้งนี้ ในการขยายถนนดังกล่าวได้มีการโค่นและตัดต้นไม้ใหญ่ จำนวนมาก โดยเฉพาะต้นตะแบก ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์และอยู่คู่กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เกือบ 100 ต้นอายุมากกว่า 50 ปี รวมทั้งมีการทำลายเนินเขาขนาดเล็ก และทัศนียภาพที่สวยงามตลอด 2 ข้างทางก่อนขึ้นอุทยานจนเสียหาย
ทั้งนี้นายมาโนช การพนักงาน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดเผยว่า การขายถนนดังกล่าว ส่งผลกระทบค่อนข้างมากต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการตัดต้นไม้ใหญ่ อาทิ ต้นตะแบก ประดู่ ก้ามปู สะเดา เป็นต้น รวมทั้งกระทบต่อสัตว์ป่า ไม่ว่าจะเป็นนก กระรอก กระแต ที่เดินทางโดยใช้ยอดไม้เชื่อมโยงระหว่างป่า ที่สำคัญคือ เรื่องของความร้อนของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่จะมีอุณหภูมิสูงขึ้น เพราะป่ากันชนถูกทำลาย ความร่มรื่นก็หายไป ซึ่งเมื่อมีการดำเนินการขยายถนนไปแล้ว ก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่อยากให้หยุดโครงการเท่าที่ได้ดำเนินการมาคือ 10 กิโลเมตร ไม่ต้องมีการขยายโครงการต่อมาถึงประตูหรือด่านปากทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขา ใหญ่ เพราะจะส่งผลเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์มากกว่าที่เป็นอยู่
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวต่อว่า การที่กรมทางหลวงขยายถนนโดยอ้างว่าเพื่อแก้ปัญหาจราจรนั้น คงช่วยได้ระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะช่วงที่รถติดมากๆ ในช่วงเทศกาลมีวัดหยุดติดต่อกันปีหนึ่งมีไม่เกิน 30 วัน ช่วงที่มีประชาชนมาท่องเที่ยวมากที่สุดประมาณวันที่ 5 - 6 ธ.ค.และช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปีเท่านั้น ที่สำคัญ เมื่อมีการขยายถนนให้กว้างขึ้นแล้วสิ่งที่น่าหวั่นเกรงที่สุด คือ เรื่องของอุบัติเหตุ เพราะรถจะมีการใช้ความเร็วในการวิ่งมากขึ้น ถ้าจะมีการขยายถนนเพื่อให้เกิดประโยชน์จริงๆ ควรทำเป็นถนนสายอุทยาน เป็นเส้นทางพิเศษสำหรับรถจักรยาน หรือ เป็นช่องทางสำหรับวิ่งออกกำลังกาย สำหรับประชาชนที่ไปพักผ่อนกับธรรมชาติมากกว่า
ด้านนายสุรพล ดวงแข ประธานเครือข่ายสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า ถนนธนะรัชน์ถือเป็นถนนสายประวัติศาสตร์ของเขาใหญ่ การขยายช่องทางจาก 4 เลนเป็น 8 เลน นอกจากส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมขนานใหญ่ ยังส่งผลกระทบต่อความเป็นมรดกโลกของเขาใหญ่ด้วย แม้การขยายถนนดังกล่าว จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของอุทยาน แต่อยู่ในเขตที่เรียกว่าพื้นที่กันชน (Buffer Zone) ซึ่งอยู่ในเงื่อนไขของความเป็นมรดกโลกด้วย.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น